ลูกนกกระเรียนถูกรถชนดับ กรมอุทยานฯ เตือนผู้ใช้รถสาย 218 ให้ระวังเป็นพิเศษ

ลูกนกกระเรียนถูกรถชนดับ กรมอุทยานฯ เตือนผู้ใช้รถสาย 218 ให้ระวังเป็นพิเศษ

15 ธ.ค. 2560

ห้องข่าวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

กรมอุทยานแห่งชาติฯ วอนผู้ใช้ทางสาย 218 นางรอง-บุรีรัมย์ลดความเร็ว  ระวัง “นกกระเรียน” บินชน หลังสูญเสียลูกนกโครงการกระเรียนคืนถิ่นบุรีรัมย์ ตัว คาดบินชนรถ-เสาไฟฟ้า 

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) พร้อมด้วยนายนิคม แหลมสัก คณบดีคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายนริศ ภูมิภาคพันธ์ อาจารย์คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมแถลงข่าวการตายของนกกระเรียนคืนถิ่น จ.บุรีรัมย์



นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า  โครงการนกกระเรียนคืนถิ่นเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2554 ภายใต้บันทึกความร่วมมือทางวิชาการระหว่างองค์การสวนสัตว์ ฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกรมอุทยานแห่งชาติ ฯ มีเป้าหมายเพื่อการอนุรักษ์ชนิดพันธุ์สัตว์ป่าหายากและฟื้นฟูประชากรสัตว์ป่าที่เคยสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติกลับคืนสู่ถิ่นอาศัยอีกครั้ง ทั้งนี้นกกระเรียนพันธุ์ไทย (Sarus crane) เป็นสัตว์ป่าสงวน ใน 15 ชนิดของประเทศไทย ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 นกกระเรียนพันธุ์ไทยนั้นเดิมเคยพบกระจายในพื้นที่ชุมน้ำ จ.บุรีรัมย์ และได้สูญหายไปจากพื้นที่ธรรมชาติเป็นเวลานานกว่า 50 ปี

รองอธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวว่า ปัจจุบัน นกกระเรียนพันธุ์ไทยถูกปล่อยคืนสู่ธรรมชาติทั้งสิ้น 82 ตัว  ปล่อยในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยจระเข้มาก 55 ตัว และในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน อีก 27 ตัว จนกระทั่งเมื่อปี 2559 นกกระเรียนพันธุ์ไทยที่ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติสามารถให้ลูกนกเกิดใหม่ในพื้นที่ได้เป็นครั้งแรก และต่อมาในปี 2560 มีข่าวดีที่พบว่านกกระเรียนพันธุ์ไทยที่ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติทำรังจำนวน คู่ และฟักเป็นตัวได้ลูกนกเกิดใหม่จำนวน ตัว แต่เป็นที่น่าเสียดายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในต.โคกม้า อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าพบซากลูกนกกระเรียน ตัว บริเวณทุ่งนาใน ต.โคกม้า เป็นลูกนกกระเรียนพันธุ์ไทยเพศผู้ ที่เกิดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2560  จากพ่อพันธุ์หมายเลข 237 และแม่พันธุ์หมายเลข 276 ที่ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเมื่อปี 2555 ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน จ.บุรีรัมย์ 

"จากการตรวจพิสูจน์ซาก พบว่าสาเหตุการตายเกิดจากการได้รับแรงกระแทกที่หน้าอกอย่างรุนแรง ซึ่งสันนิษฐานสาเหตุได้ กรณี คือ 1.ลูกนกบินชนรถยนต์บน ถ.สาย 218 (นางรอง-บุรีรัมย์) ที่ผ่านด้านหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน  2.ลูกนกบินชนเสาไฟ หรือสายไฟแรงสูงที่อยู่ตามแนวถนน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นที่มีผลกระทบต่อลูกนกกระเรียนที่เกิดใหม่และหัดบินในพื้นที่เนื่องจากพื้นที่ที่เป็นพื้นที่อาศัยของนกกระเรียนมีถนนสาย 218 (นางรอง-บุรีรัมย์)ตัดผ่าน ซึ่งทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ   จะเร่งดำเนินการในการประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้ใช้เส้นทางถนนที่ผ่านพื้นที่อาศัยของนกระเรียนให้ชะลอความเร็ว โดยจะมีการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์รวมถึงสัญญาณเตือนให้รถที่ผ่านพื้นที่ได้ชะลอความเร็ว" นายปิ่นสักส์กล่าว

Powered by Wimut Wasalai