เจ้าหน้าที่สำรวจซากช้างป่าเขาใหญ่ กม.29 ชี้เหตุธรรมชาติ

เจ้าหน้าที่สำรวจซากช้างป่าเขาใหญ่ กม.29 ชี้เหตุธรรมชาติ

26 ก.พ. 2559

ห้องข่าวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ นสพ.ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์สัตว์ป่าประจำกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้แจ้งเข้ามาว่าพบซากช้างป่าอยู่ในหุบเขาบริเวณกิโลเมตรที่ 29 ทางลงปากช่อง ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงได้เดินเท้าเข้าไปตรวจสอบ ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมง ก็ถึงที่เกิดเหตุ มีกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงมาก พบซากช้างตัวผู้อายุประมาณ 15 ปี ที่เพิ่งออกมาจากฝูง น่าจะตายมาแล้วประมาณ สัปดาห์

"บริเวณโดยรอบซากช้างนั้นพบว่า ต้นไม้ใบหญ้า ล้มระเนระนาดราบเป็นหน้ากลอง ค่อนข้างมั่นใจว่า เป็นการต่อสู้ระหว่างช้าง ตัว โดยเจ้าพลายตัวที่ตายนั้น พบรอยฟกช้ำบริเวณหน้าอกด้านขวามีบาดแผลทะลุเลือดไหลออกจำนวนมาก น่าจะโดนแทงจากงาของฝ่ายตรงข้าม ส่วนอกด้านซ้ายพบเลือดคั่งใต้ผิวหนัง และปลายงาทั้งสองข้าง มีรอยเลือดเกรอะกรัง คาดว่า คู่ต่อสู้คงได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่รู้ชะตากรรม เพราะยังไม่เห็นซาก" นสพ.ภัทรพลกล่าว








เมื่อถามว่า ทราบหรือไม่ว่าช้างทั้ง ตัวสู้กันเพราะอะไร นสพ.ภัทรพล กล่าวว่า เข้าใจว่าน่าจะเป็นการสู้เพื่อคัดเลือกผู้นำ หรือคัดเลือกตัวที่แข็งแกร่งที่สุดมากกว่า ไม่ใช่สู้เพื่อแย่งตัวเมียกัน เพราะการต่อสู้เพื่อแย่งตัวเมียนั้นจะเป็นการวัดพลังกันเบื้องต้น หากตัวใดคิดว่าเพลี่ยงพล้ำแน่ก็จะถอยไปอย่างรวดเร็ว ไม่สู้กันนาน แต่ถ้าเป็นเรื่องการคัดเลือกผู้นำ จะเป็นการทำศึกที่ค่อนข้างจริงจัง

"ผมคิดว่า ช้างตัวที่ล้มนั้น ค่อนข้างคึกคะนองด้วย เพราะเพิ่งออกจากโขลงมาใหม่ๆอาจจะเปรี้ยวอย่างแสดงตัวตน แต่พลกำลังยังไม่แกร่งพอ จึงสู้อีกตัวไม่ได้ เรื่องการต่อสู้เช่นนี้ในธรรมชาติถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่เหตุอยู่ในป่าลึกไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก ซึ่งในเมื่อมั่นใจว่าเป็นการตายตามธรรมชาติแล้ว เจ้าหน้าที่จึงปล่อยให้ซากย่อยสลายไปตามธรรมชาติ ซึ่งอาจจะเป็นอาหารของสัตว์กินซากต่อไป แต่ถอดเอางาออกมาเก็บไว้ตามกฎหมาย ช้างพลายตัวนี้มีงายาวประมาณ ฟุตเศษ ไม่สมบูรณ์นัก เพราะมีรอยบิ่นจากการต่อสู้อยู่หลายจุด ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้นิมนต์พระสงฆ์มาสวดอภิธรรมบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้ช้างที่ล้มตัวนี้ด้วย" นสพ.ภัทรพล กล่าว

Powered by Wimut Wasalai