ไซเตสปรับสถานะเต่าและตะพาบหลายชนิด

ไซเตสปรับสถานะเต่าและตะพาบหลายชนิด

11 มี.ค. 2556

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในการประชุมสมัยสามัญภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) ครั้งที่ 16 นายวิมล จันทรโรชัย อธิบดีกรมประมง แถลงผลการยื่นข้อเสนอปรับบัญชีเต่าและตะพาบว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาเสนอเต่าคองู ที่บรรจุไว้ในบัญชี ซึ่งอนุญาตให้ค้าขายได้ แต่ต้องอยู่ในการควบคุมไม่ให้ลดจำนวนลง เป็นบัญชี ที่ห้ามซื้อขายอย่างเด็ดขาด ยกเว้นเพื่อการศึกษาวิจัยและเพาะพันธุ์เท่านั้น โดยมติที่ประชุมให้คงอยู่ในบัญชีที่ แต่ให้เพิ่มโควต้าเป็นศูนย์ ที่อนุญาตให้ค้าขายได้เฉพาะเต่าคองูจากการเพาะพันธุ์เท่านั้น นอกจากนี้ได้เสนอให้เต่าจุด เต่าหางยาว เต่าบก บรรจุไว้ในบัญชี โดยมติที่ประชุมมีเสียงเป็นเอกฉันท์

“สำหรับเต่าในกลุ่ม เต่าลายตีนเป็ด เต่าหับหัวเหลือง เต่าหับจีน เต่าหับเวียดนาม เต่าหับแมคคอร์ด เต่าจัน ซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกา และจีน ได้เสนอขอบรรจุไว้ในบัญชี แต่ให้โควต้าเป็นศูนย์ ซึ่งในที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ นอกจากนี้ประเทศสหรัฐอเมริกา และเวียดนาม ได้เสนอให้เต่าปูลู และเต่าดาวพม่า ขอปรับบัญชีจากบัญชี เป็นบัญชี โดยมติที่ประชุมมีเสียงเป็นเอกฉันท์ เนื่องจากเต่าปูลู เป็นเต่าน้ำจืดที่อาศัยอยู่ที่ประเทศกัมพูชา จีน ฮ่องกง ลาว พม่า เวียดนาม และประเทศไทยในบางพื้นที่เท่านั้น ปัจจุบันถือเป็นสัตว์ที่ถูกคุมคาม มีออเดอร์จากประเทศที่นิยมนำไปเลี้ยง และทำเป็นยาสมุนไพรด้วยความเชื่อว่าเป็นยาโด๊ป มีราคาขายสูงถึงกิโลกรัมละ 6,000 บาท เช่นเดียวกับเต่าดาวพม่า ที่บางประเทศนิยมบริโภคและเป็นสัตว์เลี้ยง มีราคาขายตัวละ 8,500-20,000 บาท ซึ่งเต่าทั้ง ชนิดนี้ถือเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์แล้ว” นายวิมลกล่าว
อธิบดีกรมประมงกล่าวอีกว่า ในส่วนของวงศ์ตะพาบ 10 ชนิด ซึ่งประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน ได้เสนอขอบรรจุไว้ในบัญชี และบัญชี โดยมติที่ประชุมมีเสียงเป็นเอกฉันท์ เช่น ตะพาบม่านลาย ตะพาบม่านลายพม่า จากบัญชี เป็นบัญชี เนื่องจากมีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ยิ่งยวด มีราคาขายในเว็บไซต์ตัวละ 23,000 บาท ตะพาบแก้มแดง ตะพาบพม่า ตะพาบอินเดีย บรรจุเป็นบัญชี เป็นต้น

ที่มา

  • ห้องข่าวกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
Powered by Wimut Wasalai