ดำรงค์ จี้นายก จัดการขบวนการล่าช้างป่า ออกตั๋วรูปพรรณ

ดำรงค์ จี้นายก จัดการขบวนการล่าช้างป่า ออกตั๋วรูปพรรณ

11 มี.ค. 2556

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในฐานะหัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่าประเทศไทย กล่าวถึงกรณีช้างแม่ลูกอ่อนถูกฆ่าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ว่า การฆ่าช้างดังกล่าวชัดเจนว่าเป็นการฆ่าแม่เพื่อเอาลูกช้าง เพื่อเอาไปขายถือว่าเหี้ยมโหดอำมหิตมาก ที่สำคัญเป็นการฆ่าช้างขณะที่ประเทศไทยกำลังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์หรือไซเตส ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปเป็นประธานเปิดงานพร้อมกับกล่าวในงานดังกล่าวว่าคนไทยและประเทศไทยรักช้างมากที่สุดในโลก
“แต่การประชุมยังไม่เสร็จสิ้นช้างไทยมาถูกฆ่าตายแถมยังตายในอุทยานแห่งชาติอีกต่างหาก อย่างนี้ไม่อายชาวโลกบ้างหรือ ส่วนนายกรัฐมนตรี เองปากก็บอกรักช้าง  แต่ก็ไม่ทำอะไร รำไปรำมา ไม่มีมาตรการป้องกันใดๆ  ไม่มีงบประมาณให้ ช้างตายก็ตายไปอย่างนี้ใช้ไม่ได้ รัฐบาลต้องเอาจริงเอาจังกับการล่าช้างเพื่อเอางา ล่าช้างเพื่อเอาลูกช้าง ต้องจี้ไปที่หน่วยงานรับผิดชอบ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยต้องเร่งออกตั๋วรูปพรรณช้าง ต้องจี้ไปที่กรมอุทยานฯ ให้เร่งแก้ปัญหาไม่อย่างนั้นช้างหมดป่าแน่” นายดำรงค์กล่าว

นายดำรงค์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการจากนี้คือ เร่งจัดการขบวนการลักลอบล่าและฆ่าช้าง เพราะนายทุนต้องการช้างไทย เนื่องจากฉลาดสอนเต้นรำวาดรูปได้ ทำให้ลูกช้างไทยเป็นที่ต้องการของแหล่งท่องเที่ยว มีการฆ่าการอย่างทารุณเพื่อเอาลูกช้างจนขณะนี้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตฝึกลูกช้าง เพื่อขายไปตามรีสอร์ทไปเต้นไปวาดรูป มีการไปซื้อช้างมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ใช้ตั๋วปลอมสวมกันไปกันมา แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับรัฐบาล ไม่เข้มงวดก็เป็นอย่างนี้ไป ถ้าได้ผู้นำประเทศมาจากนักธุรกิจ ไม่รู้เรื่องอะไรกับทรัพยากรประเทศ ปล่อยไปตามเวรตามกรรมอย่างที่เห็น เวรกรรมของสัตว์ป่า ถึงเวลามาเปิดงานก็กลับบ้านกันไป ช้างก็ถูกฆ่ากันไป  

หัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่าฯ กล่าวว่า ในวันที่ 13 มีนาคมนี้ ตนจะไปยื่นหนังสือประท้วงที่สถานทูตจีน ในนามคนไทยในนามพรรค เนื่องจากเวลานี้ ประเทศจีนจะเป็นตลาดปลายทางที่รับซื้อสินค้าจากการลักลอบกระทำกันในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นไม้พะยูง หรือสัตว์ป่าหลายชนิด รวมถึงงาช้างด้วย เพราะตนจะไม่ยอมปล่อยทรัพยากรไทยหมดไปไม่ได้  ถ้าป่าหมดน้ำหมดจะทำอย่างไร อีกไม่เกิน ปี เกิดกลียุคแย่งน้ำกันแน่คนจะอพยพเพราะไม่มีน้ำกินน้ำใช้ ขณะนี้บ่อบาดาลใช้ไม่ได้ น้ำข้างล่างหมด เพราะผู้บริหารประเทศไม่เข้าใจ เป็นกรรมของประเทศ วันหนึ่งข้างหน้า ต้องลุกขึ้นสู้ ทำอะไรก็ได้ ปลูกต้นไม้ก่อนแต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย ป่าหมดไปมีแต่แผนที่ สัตว์ป่าเหลือแต่ในหนังสือ  เกิดพืชแค่สองชนิด ปาล์มและยางพารา ซึ่งปลูกได้แต่อย่าไปปลูกในพื้นที่ต้นน้ำ จุดหนึ่งพวกเราต้องลุกมาช่วยกันทุกคน ฝากคนไทยทั้งหมดต้องตื่นขึ้นมาเรื่องป่า เรื่องช้าง สัตว์ทั้งหลายเป็นสิ่งที่เรามีมาบรรพบุรุษรักษาไว้ให้
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า การลักลอบฆ่าช้างแม่ลูกอ่อนที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานนั้น สันนิษฐานว่า มีสาเหตุ ประการ คือ ช้างไปกินพืชผลการการเกษตรของชาวบ้าน แล้วชาวบ้านเกิดความโกรธ จึงมาแก้แค้นช้าง อีกประการคือ ฆ่าเพื่อที่จะเอาลูกออกมาจากป่า ปัญหาทั้ง ประการเป็นเพราะช้างออกมาหากินในพื้นที่ที่ใกล้กับที่ที่มีคนอาศัยอยู่ ที่คุยกันเพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้นคือ ต้องเข้าไปทำแหล่งน้ำเพิ่มในพื้นที่ที่เป็นที่อยู่ของช้าง ซึ่งอยู่ในป่าลึกเข้าไป เพื่อไม่ให้ช้างออกมาหากินข้างนอก อันทำให้มีโอกาสที่จะเจอกับคนและมีปัญหากันเช่นนี้อีก
เมื่อถามว่า เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขณะที่กำลังมีการประชุมไซเตส ซึ่งในการประชุมก็มีการรณรงค์เรื่องการหยุดค้างาช้าง ที่เป็นสาเหตุการฆ่าช้างจำนวนมาก นานาชาติที่เข้าร่วมประชุมคิดอย่างไร นายธีรภัทร กล่าวว่า ส่วนใหญ่คนที่เข้าร่วมประชุมยังไม่ทราบข่าว แต่ที่ทราบข่าวก็เข้าใจดีว่าเรื่องทำนองนี้สามารถเกิดได้ทุกที่ เช่น ระหว่างประชุมนี้ มีเหตุการรถไฟชนช้างในประเทศอินเดีย และในขณะเดียวกันในประเทศแอฟริกาก็ยังมีการล่าช้างกันอยู่ ซึ่งไม่มีใครต้องการให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ต้องหาทางจับผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวถึงสถานะของกองทุนอาหารช้างป่า ที่กรมอุทยานแห่งชาติดูแลอยู่เวลานี้ว่า ขณะนี้มีเงินเหลืออยู่ประมาณ 2.8 ล้านบาท ตั้งแต่เริ่มตั้งกองทุน ได้จ่ายเงินให้กับชาวบ้านจากทั่วประเทศที่ถูกช้างออกมาทำลายพืชผลการเกษตรไปแล้ว 8 แสนบาท อยู่ระหว่างอนุมัติจ่ายอีก 114 ราย เป็นเงินประมาณ 6 แสนบาท

ที่มา

  • ห้องข่าวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
Powered by Wimut Wasalai