นกแสกเหยื่ออคติโชคร้ายเจอกาวดักหนู

นกแสกเหยื่ออคติโชคร้ายเจอกาวดักหนู

นกแสกร้องน่ากลัวบนหลังคาเจ้าของบ้านกลัวเอากาวดักหนูดัก แม่นกดิ้นทุรนทุรายหาลูกบาดเจ็บสาหัส เจ้าของบ้านสงสารจับส่งสัตวแพทย์กรมอุทยานฯช่วยรักษาอาการ 50-50

28 ธ.ค. 2552

นายสัตวแพทย์(น.สพ.)บุรฉัตร ตันประดิษฐ์ สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า  เมื่อช่วงเช้าตรู่วัน 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทีมสัตวแพทย์ อส. ได้รับแจ้งจากประชาชนรายหนึ่งว่า มีครอบครัวนกแสกจำนวน ตัว ได้รับบาดเจ็บเพราะติดกาวดักหนูจนไม่สามารถบินและช่วยตัวเองได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีอาจจะทำให้ตายได้  หลังรับแจ้งไม่นานนัก ทีมสัตวแพทย์ก็พบกล่องลังขนาดใหญ่หน้าอาคารศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือสัตว์ป่า ภายในกรมอุทยานฯ คาดว่าเพิ่งถูกนำมาวางไว้ไม่นาน และเมื่อตรวจสอบในกล่อง พบนกแสก ตัว  ขนาดใหญ่ ตัว และขนาดเล็กอีก ตัว คาดว่าจะเป็นครอบครัวกันอยู่ในอาการขนหลุด หนังถลอก มีเลือดซึมออกมา มี ตัวที่มีอาการสาหัส ไม่สามารถขยับตัวได้เลย และบริเวณขนเต็มไปด้วยกาวดักหนู สัตวแพทย์ต้องรีบนำนกทั้งหมดออกมาตรวจ  และช่วยเหลือเบื้องต้น โดยแยกลูกนกออกจากพ่อแม่  ให้อาหาร และให้ออกซิเจนกับตัวที่มีอาการหนัก พร้อมกับติดตามดูอาการนกทั้งหมดเพื่อรักษาต่อไป

น.สพ.บุรฉัตรกล่าวว่า ผู้ที่นำนกทั้งหมดมารักษาเล่าว่า นกแสกทั้ง ตัวเป็นครอบครัวนกที่เข้าไปอาศัยทำรังอยู่ที่หลังคาบ้าน  และมักจะส่งเสียงร้องน่ากลัว เพราะมีลูกนกมากถึง  ตัว  รวมทั้งเจ้าของบ้านเองมีความเชื่อว่า หากนกแสกมาทำรังอยู่ที่บ้านจะทำให้เกิดโชคร้าย จึงอยากจะไล่นกออกไป แต่ก็ไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหน จึงนำกาวดักหนูใส่ถาดไปวางไว้บริเวณปากทางเข้ารังนก โดยอาศัยช่วงที่พ่อแม่นกออกไปหาอาหารมาป้อนลูกในตอนกลางคืน จนกระทั่งรุ่งเช้าจึงไปติดตามดู ก็พบว่าพ่อแม่นก ถูกกาวดักหนูติดอยู่ และมีอยู่หนึ่งตัวพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดจากกาว ทำให้ขนและผิวหนังหลุด และลอกออกจนเป็นบาดแผลสาหัส เจ้าของบ้านจึงจับนกทั้งหมดนำมาส่งให้กับสัตวแพทย์เพื่อรักษา
“เบื้องต้นได้ป้อนอาหารให้กับลูกนกทั้ง ตัว และ นกตัวใหญ่ ตัว ส่วนอีกหนึ่งตัวที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องให้ออกซิเจนเพื่อให้มันหายใจได้  และพยายามที่จะเอาโลชั่นทาลูบที่ผิวหนังและขนของมันเพื่อจะเอากาวออก แต่อาการของนกตัวนี้หนักมาก มีความหวังแค่ 50-50 เท่านั้น แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่สามารถตรวจสอบเพศได้ แต่เชื่อว่า มันพยายามที่จะเข้าไปหาลูกของมันด้วยการดิ้นรนเต็มที่แบบไม่คิดชีวิตจนทำให้กาวติดไปทั่วตัว ขนหลุด และเกิดเป็นแผลถลอกขนาดใหญ่ แต่ทีมสัตวแพทย์ก็จะพยายามรักษาพวกมันให้ดีที่สุด” น.สพ.บุรฉัตร กล่าวและว่า  กรณีของครอบครัวนกแสกดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของสัตว์ป่าที่ถูกทำร้ายด้วยความไม่ตั้งใจ และความเชื่อของประชาชน รวมไปถึงการใช้วิธีการจัดการกับสัตว์แบบผิดวิธีจนทำให้สัตว์ได้รับบาดเจ็บ และอาจจะตายได้ 

ที่มา

  • ห้องข่าวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
Powered by Wimut Wasalai