จับลักลอบขนลูกเสือโคร่งคาสุวรรณภูมิ

จับลักลอบขนลูกเสือโคร่งคาสุวรรณภูมิ

เผยให้ยาซึมยัดใส่กระเป๋ารวมกับตุ๊กตาเสือ

27 ส.ค. 2553

วิมุติ วสะหลาย wimut@hotmail.com

ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หญิงไทยอายุ 31 คนหนึ่งซึ่งทางการไม่เปิดเผยชื่อ ได้เตรียมเดินทางโดยเครื่องบินของสายการบินมาฮานไปยังประเทศอิหร่าน แต่เจ้าหน้าที่พบพิรุธขณะที่กำลังทุลักทุเลกับการนำกระเป๋าใบใหญ่เข้าเช็คอิน จึงได้ตรวจสอบกระเป๋าดังกล่าวด้วยเครื่องเอกซ์เรย์ ผลการเอกซเรย์เผยว่าในกระเป๋ามีลูกเสือโคร่งตัวหนึ่งอายุประมาณสองเดือน อยู่ในสภาพเมายาพร้อมกับตุ๊กตาเสือโคร่งอีกหลายตัว
ภาพจาก TRAFFIC

ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ว่าลูกเสือโคร่งตัวนี้เป็นเสือที่ถูกจับมาจากป่า หรือแหล่งเพาะเลี้ยง รวมถึงสืบหาปลายทางที่หญิงคนนี้ต้องการส่งเสือไปด้วย
จากข้อมูลของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติหรือไอยูซีเอ็น ระบุว่า ปัจจุบันเสือโคร่งทุกสายพันธุ์เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์และบางพันธุ์ก็ใกล้สูญพันธุ์ไปแล้ว สาเหตุหลักมาจากการลักลอบค้าเสือและอวัยวะเสือเป็นสำคัญ 
นอกจากนี้เสือโคร่งยังอยู่ในบัญชีแนบท้ายหมายเลข ของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์หรือไซเตส ซึ่งห้ามมิให้มีการซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็นเสือที่จับได้จากป่าหรือเสือที่มาจากการเพาะเลี้ยง
"แม้จะเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับทางการที่สามารถสกัดจับการลักลอบครั้งนี้และช่วยชีวิตเสือไว้ได้ แต่คดีนี้ก็ยังแสดงถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดยิ่งขึ้น" คริส อาร์. เชปเพอร์ด ประธานสาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเครือข่ายติดตามการค้าสัตว์ป่าหรือแทรฟฟิก (TRAFFIC) ให้ความเห็น
ภาพจาก TRAFFIC

"แรงกดดันต่อพวกลักลอบค้าสัตว์ป่าอย่างต่อเนื่อง และการลงโทษอย่างรุนแรงเท่านั้นที่จะยับยั้งการค้าผิดกฎหมายนี้ได้"
แม้จะไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าธุรกิจค้าสัตว์ป่ามีขนาดใหญ่โตแค่ไหน แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่านี่คือธุรกิจผิดกฎหมายที่ทำกำไรสูงที่สุดในโลก ตามข้อมูลของวารสารเนชันแนลจีโอกราฟิก
เจ้าหน้าที่ด่านตรวจยังแจ้งว่า จนถึงวันที่ 27 สิงหาคม แม้จะผ่านมาเกือบสัปดาห์แล้ว ลูกเสือตัวนี้ยังไม่หายมึน เนื่องจากได้รับยาเป็นปริมาณมาก ขณะนี้ลูกเสืออยู่ในการดูแลของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และอยู่ระหว่างรอการตรวจสอบดีเอ็นเอต่อไปเพื่อหาว่าเป็นพันธุ์อะไร เช่นพันธุ์เบงกอล สุมาตรา หรืออินโดจีน ซึ่งจะช่วยให้ทางการสืบหาที่มาของเสือได้ชัดเจนยิ่งขึ้น 
ภาพจาก TRAFFIC

ภาพจาก TRAFFIC

ที่มา

Powered by Wimut Wasalai