“อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” เฉียบ ห้ามนักบิดซิ่งส่งเสียงดังบนเขาใหญ่  เจอจับปรับส่งดำเนินคดี  พร้อมจัดระเบียบนักวิจัยจะเข้าป่าต้องขออนุญาต หวังแก้ปัญหาตัดไม้หอม-ยาเสพย์ติด-อาชญากรรม แฉคณะนักวิจัยผูกขาดบ้านพักปิดทางนักวิจัยกลุ่มอื่น โอดขนาดเจ้าหน้าที่ยังไม่มีที่อยู่  ซ้ำจัดสัมมนาเก็บเงินนักท่องเที่ยวเข้ากระเป๋าตัวเอง

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นายกฤษฎา หอมสุด   หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางอุทยานฯ เขาใหญ่ได้ดำเนินมาตรการขั้นเด็ดขาดต่อนักท่องเที่ยวที่ให้อาหารสัตว์ป่า โดยเฉพาะลิง ที่มักจะมารออาหารอยู่ตามริมถนนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ และมีลิงตายไปจำนวนมากนั้น โดยมีการตักเตือน หากไม่เชื่อฟังก็จะจับปรับและส่งดำเนินคดี ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วหลายรายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายกฤษฎากล่าวอีกว่า นอกจากนั้นล่าสุดยังได้ดำเนินการกับนักท่องเที่ยวที่ขับรถจักรยานยนต์ขึ้นมาท่องเที่ยวแบบเป็นหมู่คณะครั้งละ 20-30 คัน ซึ่งมีหลากหลายตั้งแต่ขบวนวัยรุ่นที่มีการดัดแปลงรถจักรยานยนต์ หรือขบวนรถเศรษฐีที่เป็นรถจักรยานยนต์ราคาแพง ทั้งจักรยานยนต์ชอปเปอร์ยี่ห้อดังๆ   จักรยานยนต์บีเอ็มดับบลิวราคาคันละหลายล้านบาทที่เขารวมตัวกันเป็นชมรมและสมาคม คนนิยมรถประเภทนี้และพากันขับรถขึ้นมาทดลองสมรรถภาพของรถและท่องเที่ยวบนอุทยานฯ เขาใหญ่ แต่ขับรถเร็วจนอาจเกิดอันตรายและส่งเสียงดังรบกวนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ และสัตว์ป่า ซึ่งได้จับปรับและส่งดำเนินคดีไปหลายคณะแล้ว ขณะนี้อุทยานฯ มียอดค่าปรับจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กว่า 8,000 บาทแล้ว
“จริงแล้วๆ เราก็ไม่อยากดำเนินการเช่นนี้กับนักท่องเที่ยว ถ้ามาเพียงคันเดียวก็ไม่เป็นไร  แต่หากมาเป็นหมู่คณะหรือมีการดัดแปลงตกแต่งเครื่องยนต์จนส่งเสียงดังรบกวนนักท่องเที่ยวและสัตว์ป่าก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง โดยจักรยานยนต์เหล่านี้จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ รถเก่าแต่เสียงดังและรถใหม่จากบริษัท  ซึ่งผ่านการควบคุมระดับเสียงมาจากโรงงานผลิตแล้ว แต่หากใช้ความเร็วสูงก็ยังส่งเสียงดังจนรบกวนผู้อื่นได้อยู่ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะใช้มาตรการตักเตือนและห้ามปรามก่อน แต่หากยังไม่ฟังและมีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อเจ้าหน้าที่ก็จะจับปรับ 300-500 บาท  และส่งดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติที่ห้ามส่งเสียงดังรบกวนคน สัตว์ และไม่เชื่อฟังเจ้าหน้าที่  แล้วแต่กรณี ลำพังผมคงไม่มีปัญญาไปทำอะไรมาก แต่ได้บอกกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาใหญ่ทุกคนว่าอยากให้นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นที่มาท่องเที่ยวและศึกษาธรรมชาติอย่างสงบดูถูกได้ว่าเจ้าหน้าที่เขาใหญ่ไม่มีปัญญาที่จะไปทำอะไรกับคนพวกนี้ โดย หลังจากที่ได้ดำเนินการไปแล้วก็มีการนำไปโพสต์ในเฟซบุ๊กต่อว่าว่าเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาใหญ่ทำเกินกว่าเหตุ รวมทั้งมีการตักเตือนในหมู่กันเองด้วยว่าให้ระวังถูกปรับหากมาเขาใหญ่ ” นายกฤษฎา กล่าว
หัวหน้าอุทยานฯ เขาใหญ่กล่าวอีกว่า สิ่งที่พยายามดำเนินการตอนนี้คือการทำให้ทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หัวหน้าอุทยานฯ คนอื่นที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไรตนไม่ทราบ แต่ในยุคของตนต้องพยายามทำให้ทุกอย่างเข้าร่องเข้ารอยมากกว่าเดิม ทั้งนี้ในเรื่องนักวิจัยก็ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน ขณะนี้กำลังจัดระเบียบนักวิจัยบนอุทยานฯ เขาใหญ่  การเข้ามาศึกษาวิจัยในพื้นที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ต้องขออนุญาตก่อน ถ้าพบว่าไม่มีการขออนุญาตถ้าพบก็จะจับเลย เพราะที่ผ่านมามีกลุ่มนักวิจัยไปเอาคนทำไม้หอมหรือไม้กฤษณามาเป็นทีมวิจัย ถ้าเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับเปิดป่าให้เขาสำรวจ  รวมทั้งยังมีปัญหายาเสพย์ติด ของในบ้านพักหาย และปัญหาอาชญากรรม โดยเฉพาะในเรื่องบ้านพักบนอุทยานฯ ที่มีทีมวิจัยบางทีมครอบครองผูกขาดมาเป็นสิบๆ ปี โดยไม่เปิดโอกาสให้ทีมอื่นๆ ได้เข้าไปอยู่บ้าง ขณะนี้กำลังพยายามไม่ให้มีคนที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่บนเขาใหญ่ เพราะมีความเสี่ยงในเรื่องต่างๆ หากทีมวิจัยจะอยู่ต่อก็ต้องเช่าเป็นเรื่องราว ไม่ใช่อยู่ฟรี เพราะขนาดบ้านพักเจ้าหน้าที่เองยังมีไม่เพียงพอ โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา
“ในกรณีนักวิจัยและทุกๆ เรื่อง ผมกำลังพยายามทำให้ถูกระเบียบ เพราะที่ผ่านมาปล่อยปละละเลยกันมาก ไม่รู้แน่ชัดว่าใครเป็นนักวิจัยและมีจำนวนเท่าใดบ้าง  มีการแอบอ้างจัดฝึกอบรมสัมมนาโดยใช้สถานที่บนอุทยานฯ เขาใหญ่และเก็บเงินผู้เข้าอบรม โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ทราบเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น” นายกฤษฎากล่าว