กระแตมีรูปร่างคล้ายกระรอก แต่ไม่ใช่กระรอก สีขนสีเทาอมมะกอก มีปากยื่นยาวกว่ากระรอก ไม่ใช่สัตว์ฟันแทะ มีสูตรฟันคือ 2/3, 1/1, 3/3, 3/3 ตัวผู้มีขนรอบตาสีขาวและตัวใหญ่กว่าตัวเมีย และยังมีกะโหลกกว้างกว่าตัวเมีย กระแตเหนือหนักประมาณ 50-270 กรัม ความยาวหัว-ลำตัว 12-21 เซนติเมตร หางยาว 14-20 เซนติเมตร ลูกกระแตแยกตัวผู้ตัวเมียได้ยาก ตัวผู้สามารถหดองคชาตเข้าไปในท้องได้เวลาเครียด 



กระแตเหนืออาศัยได้ในป่าหลายประเภท ทั้งป่าเขตร้อน ป่ากึ่งเขตร้อน ป่าไม้พุ่ม พื้นที่กสิกรรม พบได้ระดับความสูงตั้งแต่ระดับน้ำทะเลไปจนถึง 3,000 เมตร พบได้ตั้งแต่บังกลาเทศ ภูฏาน ตอนใต้ของจีนรวมถึงเกาะไหหลำ ตลอดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลงไปใต้สุดถึงคอคอดกระ 



อาหารหลักของกระแตเหนือคือแมลง บางครั้งก็กินผลไม้ด้วย ระบบย่อยอาหารของกระแตดูดซึมน้ำได้ไม่ดีนัก จึงอดน้ำได้ไม่ทน

กระแตเหนือเป็นสัตว์หวงถิ่น แต่ละตัวมีอาณาเขตประมาณ 4,000 ตารางเมตร อาณเขตของตัวผู้กับตัวเมียจะซ้อนเหลื่อมกันและช่วยกันปกป้องอาณาเขตอย่างแข็งขัน กระแตใช้สารที่ขับจากต่อมที่อยู่ที่หน้าอกในการป้ายประกาศอาณาเขต  


กระแตเหนือจับคู่เพียงครั้งเดียว ผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี มีคาบการติดสัด 8-12 วัน ตั้งท้องนานราว 41-45 วัน กระแตเหนือออกลูกครั้งละ 1-5 ตัว ลูกแรกเกิดหนักราว 6-10 กรัม เปลือยเปล่า หูและตาปิด เมื่ออายุได้ 10 วัน หูก็จะเปิด เมื่ออายุได้ 20 วันตาก็จะเปิด พออายุได้ 35 วันก็หย่านม และเมื่ออายุได้ 50-60 วัน ก็ออกหากินเองได้แล้ว ตัวผู้เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ได้ตั้งแต่อายุได้ 4-5 เดือน ส่วนตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ได้เมื่ออายุราว 4 เดือน 

หลังจากแม่กระแตให้นมลูกแต่ละครั้ง ก็จะหายไปนานราว 48 ชั่วโมงก่อนจะกลับมาให้นมอีกรอบ ดังนั้นแม่ลูกกระแตจึงมีช่วงเวลาใกล้ชิดกันน้อยมาก ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในวัยกินนม แม่ลูกมีเวลาใกล้ชิดรวมกันแล้วไม่ถึงสองชั่วโมง พ่อกระแตไม่มีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูลูก ในแหล่งเพาะเลี้ยง กระแตเหนือมีอายุขัยราว 9-12 ปี 

กระแตเหนือปรับตัวเข้ากับการรบกวนจากมนุษย์ได้ดี ปัจจุบันจำนวนประชากรยังคงที่และยังพบได้ทั่วไปตลอดเขตกระจายพันธุ์ ไอยูซีเอ็นประเมินว่าความเสี่ยงต่ำ (2555)