แมวชอฟรัว
Geoffroy's Cat
Oncifelis geoffroyi
ลักษณะทั่วไป
เป็นแมวขนาดเท่าแมวบ้าน
ความยาวลำตัวประมาณ 55-70 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 3-5 กิโลกรัม ตัวผู้ใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย สีพื้นสีน้ำตาลอ่อน ตามลำตัวมีจุดกลมสีดำขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่ว แต่ละจุดขนาดเกือบเท่ากันและกระจายสม่ำเสมอกัน จุดบริเวณคอจะเชื่อมต่อเรียงกันเป็นสายสร้อย มีลายเส้นพาดผ่านกระหม่อม และสองเส้นพาดผ่านแก้มแต่ละข้าง ส่วนล่างของลำตัวมีสีพื้นจางลงแต่ก็มีจุดเหมือนกัน ขาสั้นม่อต้อ ขาส่วนบนมีลายแถบ ส่วนล่างเป็นลายจุดลงไปจนถึงตีน หางมีปล้องดำหลายปล้อง ปลายหางดำ หางยาวเกินครึ่งหนึ่งของความยาวหัวและลำตัวเล็กน้อย หูใหญ่กลม หลังใบหูสีดำตรงกลางใบหูสีขาว ม่านตาอาจเป็นไปได้หลายสีตั้งแต่สีทองจนถึงสีเทาอมเขียว
แมวที่อยู่ในตอนเหนือของพื้นที่ตัวใหญ่กว่าทางใต้ ขนยาวกว่าและซีดกว่า ส่วนทางใต้ลงมาสีจะค่อนไปทางสีเทาออกเงิน ส่วนพวกที่อยู่ค่อนไปทางเหนือถึงประเทศปารากวัยตัวจะเล็กกว่าและขนคล้ำกว่า สีสันออกไปทางแดงเหลืองปนแดง พวกที่อยู่ทางตอนเหนือของอาร์เจนตินามีลายจุดจางต่างจากแมวชอฟรัวทั่วไป ในสมัยก่อนเคยเข้าใจไปว่าเป็นแมวต่างชนิด เรียกว่า "แมวทะเลทรายเกลือ" (salt desert cat)
นอกจากแมวชอฟรัวลายจุดทั่วไปแล้ว ยังมีแมวชอฟรัวดำ ที่เป็นความผิดปรกติแบบเมลานิสติกเช่นเดียวกับเสือดำ แมวชอฟรัวดำพบได้บ่อยตามบริเวณที่เป็นป่าทึบในตอนเหนือของเขตกระจายพันธุ์
ชื่อสามัญของแมวชนิดนี้ตั้งตามนักธรรมชาติวิทยาในศตวรรษที่ 19 ชอฟรัว เซนต์ ฮีแลร์ (Geoffroy St Hilaire)
ชื่อเรียกแมวชอฟรัวในภาษาต่าง ๆอังกฤษ | Geoffroy’s Cat |
ฝรั่งเศส | chat de Geoffroy |
เยอรมัน | Geoffroykatze, Kleinfleckkatze, Salzkatze |
สเปน | gato de mato, gato montés, gato de las salinas |
อาร์เจนตินา | gato montés comun |
บราซิล | gato do mato pelo curto, gato do mato de Geoffroy |
ชิลี | gato montés argentino |
เปรู | osjo |
ชนิดย่อย
●O.g.euxanthus - โบลิเวีย
●O.g.geoffroyi - อาร์เจนตินาตอนกลาง
●O.g.paraguae - บราซิลตอนใต้ อุรุกวัย ปารากวัย
●O.g.salinarium - เขตชาโก
ถิ่นที่อยู่อาศัย
เขตกระจายพันธุ์ของแมวชอฟรัว
แมวชอฟรัวอาศัยได้ในพื้นที่หลายแบบ พบได้ตั้งแต่ทุ่งหญ้าปัมปัสทั้งที่ราบและตีนเขา ป่าละเมาะที่มีหินระเกะระกะ ป่าไม้พุ่มชาโก ป่าไม้แล้ง จนถึงทะเลทรายเกลือในอาร์เจนตินา แต่ไม่พบในป่าฝนเขตร้อนและป่าไม้ใบกว้างทางตอนใต้ มักเลี่ยงพื้นที่เปิดโล่ง พบได้ที่ความสูงตั้งแต่ระดับน้ำทะเลจนถึง 3,300 เมตร ในโบลิเวีย อาร์เจนตินา ปารากวัย และบราซิล พบได้ในแถบตีนเขาในเทือกเขาแอนดีสด้านปาตาโกเนีย แต่ไม่พบในป่าพืชเมล็ดเปลือยซึ่งมีตัวคอดคอด (Oncifelis guigna) อยู่ เขตกระจายพันธุ์แผ่ไปทางใต้ไกลถึงช่องแคบแมเจเลน นับเป็นแมวที่มีเขตกระจายพันธุ์ใกล้ขั้วโลกใต้ที่สุด (เท่ากับเสือพูมา) พื้นที่ส่วนใหญ่ที่แมวชอฟรัวอยู่มักมีแมวปัมปัสอยู่ด้วย
อุปนิสัย
แมวชอฟรัวหากินเวลากลางคืนเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเวลากลางวันหลับพักผ่อนอยู่บนกิ่งไม้เตี้ย ๆ หรือในพุ่มไม้ทึบ อาหารหลักได้แก่นกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมขนาดเล็ก เช่นหนู หนูตะเภา อะกูตี กบ ปลา กิ้งก่า และแมลง และเคยพบว่ามันลากกระต่ายป่ายุโรปขึ้นไปบนต้นไม้ด้วย
แมวชนิดนี้ใช้พื้นที่หากินน้อย จากการติดตามแมวชอฟรัวตัวผู้เต็มวัยห้าตัวทางวิทยุพบว่า พื้นที่หากินกว้างประมาณ 9.21 ตารางกิโลเมตร ส่วนตัวเมียตัวหนึ่งมีพื้นที่ 5.16 ตารางกิโลเมตร ส่วนอีกตัวหนึ่งมีพื้นที่ 2.33 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ของตัวเมียจะซ้อนทับกันแต่ของตัวผู้จะไม่ซ้อนทับกัน คาดว่าความหนาแน่นของประชากรในพื้นที่ที่ดีที่สุดอยู่ที่ประมาณ 1.2 ตัวต่อ 10 ตารางกิโลเมตร (รวมลูก) ส่วนในทุ่งหญ้าสลับป่าไม้พุ่มมีความหนาแน่นประชากรประมาณ 0.7 ตัวต่อ 10 ตารางกิโลเมตร
เนื่องจากใช้พื้นที่หากินน้อยและจับเหยื่อได้หลายประเภท จึงมีจำนวนประชากรอยู่มาก ความจริงแมวชอฟรัวเป็นแมวป่าที่มีประชากรมากที่สุดในอเมริกาใต้
แมวชอฟรัวมักพบอยู่บนพื้นดินมากกว่าบนต้นไม้ แต่ก็ปีนป่ายและว่ายน้ำได้เก่ง ลูกแมวที่อายุเพียง 6 สัปดาห์ก็ปีนป่ายได้อย่างคล่องแคล่วโดยไม่กลัวความสูงเลย คนพื้นเมืองเล่าว่าแมวชนิดนี้ไม่กลัวน้ำ แม้ชื่อพื้นเมืองที่นี่คือ "gato montes" ซึ่งแปลว่าแมวภูเขาก็ตาม แต่บางครั้งชาวบ้านก็เรียกแมวชนิดนี้ว่า "เสือปลา" เหมือนกัน ในอุทยานแห่งชาติตอเรสเดลไปย์เนในชิลีเคยพบว่าแมวชอฟรัวตัวหนึ่งว่ายข้ามลำน้ำเชี่ยวที่กว้าง 30 เมตรไม่น้อยกว่า 20 ครั้ง
ชีววิทยา
ชีวิตครอบครัวของแมวชอฟรัวแปลกกว่าแมวทั่วไปอย่างหนึ่งนั่นคือ ตัวผู้มีส่วนร่วมในการเลี้ยงดูลูกเล็กน้อย แม่แมวมีช่วงเวลาเป็นสัดประมาณ 2.5 วัน คาบการเป็นสัด 20 วัน ตั้งท้องนานประมาณ 72-78 วัน มักออกลูกราวเดือนธันวาคม-พฤษภาคม ออกลูกตามหลืบหินหรือในพุ่มไม้ ออกลูกคราวละ 1-4 ตัว (ส่วนใหญ่ 2-3 ตัว) ลูกแมวแรกเกิดหนัก 60-100 กรัม ยืนได้ตั้งแต่อายุได้ 4 วัน เมื่ออายุได้ 3 เดือนลูกแมวก็จะหย่านมแล้ว และเมื่ออายุได้ 8 เดือนก็เป็นอิสระจากแม่ ตัวเมียจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 18 เดือน ส่วนตัวผู้จะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 24 เดือน วัยเจริญพันธุ์บางตัวอาจเร็วถึง 9-12 เดือน แมวตัวเมียออกลูกได้ทุกปี เทียบกับแมวบ้านแล้ว ลูกแมวชอฟรัวเจริญเติบโตค่อนข้างช้ากว่า อายุขัยราว 18 ปี
ภัยคุกคาม
เมื่อเทียบกับแมวชนิดอื่นในอเมริกาใต้ แมวชนิดนี้ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ค่อนข้างดี ดังนั้นเมื่อถิ่นที่อยู่อาศัยถูกรบกวน แทนที่จะย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่ กลับยังคงอยู่ที่เดิมและอาศัยประโยชน์จากการที่สัตว์ล่าเหยื่อชนิดอื่นหายไป ด้วยเหตุนี้แมวชอฟรัวจึงถูกดักและจับไปเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงได้ง่าย บางท้องที่ถึงกับเลี้ยงไว้จับหนูเหมือนแมวบ้าน บางครั้งถูกชาวบ้านกำจัดทิ้งเนื่องจากเป็นอันตรายต่อเป็ดไก่ที่เลี้ยงไว้ ยิ่งกว่านั้น ชาวบ้านบางแห่งก็ถือว่าแมวชอฟรัวเป็นอาหารจานเด็ด
แมวชอฟรัวเป็นแมวป่าที่ถูกล่ามากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก เฉพาะในประเทศอาร์เจนตินาประเทศเดียว มีการซื้อขายหนังแมวชอฟรัวมากถึง 350,000 ผืนในช่วงปี 2519-2522 แม้เมื่อเข้าสู่ทศวรรษ 1980 การค้าขายก็ยังมีอยู่มากเนื่องจากการค้าขายหนังโอเซลอตน้อยลงเหลือปีละ 55,000 ผืนในช่วงปี 2523-2527 ด้วยเหตุนี้จำนวนประชากรของแมวชอฟรัวจึงลดลงไปอย่างมาก แม้การค้าขนสัตว์จะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ขนแมวชอฟรัวก็ยังพบได้ในตลาดในปารากวัยและอุรุกวัย ปัจจุบันคาดว่ายังมีการซื้อขายหนังแมวชอฟรัวถึงปีละ 150,000 ผืน แต่เป็นไปได้ที่หนังแมวชอฟรัวที่มีการค้าขายอยู่นี้มาจากการฆ่าในฐานะสัตว์รบกวนและสัตว์ที่คุกคามสัตว์เลี้ยงเป็นส่วนใหญ่
ในระยะหลังเริ่มมีภัยคุกคามชนิดใหม่เกิดขึ้นมาสำหรับแมวชนิดนี้ นั่นก็คือนักเพาะพันธุ์แมวแปลก จากความต้องการของคนเลี้ยงแมวที่อยากเห็นแมวพันธุ์แปลกใหม่ จึงมีความพยามยามที่จะนำแมวชอฟรัวแท้ผสมกับแมวบ้านหลายสายพันธุ์ แมวสายเลือดใหม่นี้มีชื่อว่า แมวซาฟารี ความต้องการนี้ทำให้แมวชอฟรัวพันธุ์แท้ต้องเสียโอกาสในการให้กำเนิดลูกหลานที่เป็นสายเลือดแท้ของตัวเองไป
สถานภาพ
แม้จะถูกล่าอย่างมาก แต่จำนวนประชากรของแมวชอฟรัวก็ยังมีอยู่มากเช่นกัน แมวชอฟรัวนับเป็นแมวที่พบเห็นได้ง่ายที่สุดในโลกในเขตกระจายพันธุ์ ยกเว้นเพียงทางตอนใต้ของชิลีที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าไม้พุ่มที่หนาวเย็นแคบ ๆ ทางตะวันออกของเทือกเขาแอนดีส แมวชอฟรัวได้รับการคุ้มครองตลอดเขตกระจายพันธุ์ ในปี 2535 ไซเตสได้บรรจุชื่อของแมวชอฟรัวไว้ในบัญชีหมายเลข 1 ไอยูซีเอ็นประเมินสถานภาพของแมวชนิดนี้ว่า ใกล้ถูกคุกคาม (2550)
ประเทศที่ห้ามล่าและห้ามค้า
อาร์เจนตินา โบลิเวีย บราซิล ชิลี ปารากวัย อุรุกวัย
เขียนโดย วิมุติ วสะหลาย (wimut@hotmail.com) เผยแพร่ : 30 ส.ค. 64 แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ก.ย. 66