อีเห็นเครือ, มูดสังไม้
Masked Palm Civet, Himalayan Palm Civet
Paguma larvata
อีเห็นเครือต่างจากอีเห็นชนิดอื่นที่เห็นได้ชัดคือ
ลำตัวสีเรียบไม่มีลาย ขนสั้น สีขนหลากหลาย ตั้งแต่สีน้ำตาลอมเหลือง ส้ม จนถึงสีเทา ปลายขาทั้งสี่สีเข้มหรืออาจถึงดำ ใบหน้า แก้ม และใบหูดำ มีเส้นสีขาวผาดผ่านตามสันจมูกขึ้นไปถึงกระหม่อม รอบขอบตามีจุดขาว หนวดขาว ด้านล่างของลำตัวสีซีด มีต่อมที่ก้นสี่ต่อมสามารถพ่นสารกลิ่นฉุนเพื่อไล่ศัตรู ตัวเมียมีหัวนมสี่หัว ลำตัวยาว 51-76 เซนติเมตร หางยาว 51-63 เซนติเมตร หนัก 3.6-6 กิโลกรัม
อีเห็นเครือมีสี่ชนิดย่อย ชนิดย่อย P. larvata wroughtoni อาศัยอยู่ในแคชเมียร์ ปัญจาบตอนบน และบางส่วนของ Kumaun กับ Garhwal ชนิดย่อย P. larvata grayi พบใน Kumaun และ Garhwal ชนิดย่อย P. larvata neglecta พบได้ตั้งแต่สิกขิมมาทางตะวันออกจนถึงจีนใต้และอินโดจีน ชนิดย่อย P. larvata tytlerii พบได้ในหมู่เกาะอันดามันและหมู่เกาะนิโคบาร์
อีเห็นเครือมีเขตกระจายพันธุ์กว้างกว่าอีเห็นและชะมดทุกชนิด พบได้ทั่วเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบได้ตั้งแต่ปากีสถาน รวมถึงเกาะหลายแห่งเช่นบอร์เนียว สุมาตรา ไต้หวัน นิโคบาร์ ส่วนในญี่ปุ่นเดิมไม่เคยมี แต่ต่อมามีการนำเข้าไปเลี้ยงในต้นศตวรรษที่ 20
อีเห็นชนิดนี้อาศัยได้ในพื้นที่หลายประเภท พบได้ในป่าฝนเขตร้อนและป่าเบญจพรรณเขตอบอุ่น ป่าบนภูเขาสูง หรือแม้แต่ป่าใกล้ชุมชน
แม้จะอยู่ในอันดับสัตว์นักล่า แต่อีเห็นเครือกินผลไม้มากกว่าเนื้อสัตว์ สัตว์ที่กินได้แก่สัตว์เล็ก เช่นกระรอก นก และแมลง หากินตอนกลางคืนโดยลำพัง มักหากินบนต้นไม้ เวลากลางวันมันหลับอยู่ตามยอดไม้ พื้นที่หากินแต่ละตัวเฉลี่ยราว 2 ตารางกิโลเมตร เมื่อตกใจจะพ่นของเหลวจากต่อมข้างก้นใส่ศัตรู คล้ายกับที่สกังก์ทำ
อีเห็นเครือตั้งท้องได้ปีละสองครั้ง ไม่มีฤดูกาลผสมพันธุ์ที่แน่นอน ตัวเมียอาจออกลูกได้ปีละสองครั้ง ครอกหนึ่งมีตั้งแต่ 1-4 ตัว ลูกอีเห็นลืมตาได้เมื่ออายุได้ 9 วัน พออายุได้ 3 เดือนก็ตัวเท่าพ่อแม่แล้ว
ในแหล่งเพาะเลี้ยงมีอายุได้ถึง 20 ปี ในธรรมชาติคาดว่ามีอายุขัยราว 10 ปี
ไอยูซีเอ็นประเมินสถานภาพไว้ในระดับมีความเสี่ยงน้อย (LC) ไซเตสจัดไว้ในบัญชีหมายเลข 3
ทราบหรือไม่?
●โรคซาร์สที่ระบาดในปี 2546 เชื่อว่าคนได้รับเชื้อจากอีเห็นเครือ เนื่องจากอีเห็นเครือเป็นอาหารจานเด็ดของคนจีน แต่นักไวรัสวิทยาสันนิษฐานว่าอีเห็นเครืออาจไม่ใช่แหล่งกำเนิดเชื้อชนิดนี้ แต่รับมาจากสัตว์ชนิดอื่นอีกต่อหนึ่ง ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นสัตว์ชนิดใด
●ของเหลวที่พ่นออกมาจากต่อมข้างก้นมีส่วนผสมของ civetone (9-cis-cycloheptadecenone) และ methyl ketones
●ชาวบ้านบางพื้นที่เลี้ยงอีเห็นเครือไว้เป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อช่วยกำจัดหนู
คลิปอีเห็นเครือจากโซเชียลมีเดีย
จากคุณ Yann Ouansing
Paguma larvata |
ชื่อไทย | อีเห็นเครือ, มูดสังไม้ |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Paguma larvata |
ชั้น | Mammalia |
อันดับ | Carnivora |
วงศ์ | Viverridae |
วงศ์ย่อย | Paradoxurinae |
สกุล | Paguma |
เขียนโดย วิมุติ วสะหลาย (wimut@hotmail.com) เผยแพร่ : 24 ส.ค. 64 แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 พ.ค. 66