ลักษณะทั่วไป
เสือจากัวร์เป็นเสือที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกา
ชื่อ “จากัวร์” เพี้ยนมาจากชื่อในภาษาอินเดียนแดงว่า “yaguara” มีความหมายว่า สัตว์ร้ายที่ฆ่าเหยื่อด้วยการกระโจนตะครุบครั้งเดียว ชนเผ่าในอเมริกากลางและอเมริกาใต้หลายเผ่าใช้เสือจากัวร์เป็นสัญลักษณ์ของความมีอำนาจของวัฒนธรรมตน
เสือจากัวร์มีลักษณะคล้ายเสือดาวมาก มีขนสั้นเกรียน สีพื้นตั้งแต่เหลืองทอง น้ำตาลอมเหลือง จนถึงน้ำตาลแดง บริเวณหัว คอ และขามีลายเป็นจุดดำ หลังและสีข้าง มีลายดอกคล้ายเสือดาว ลายดอกอาจขาดไม่เต็มวง กลางดอกมีจุดดำหนึ่งจุดหรือมากกว่า ปากกว้าง ม่านตามีสีหลากหลายตั้งแต่สีเหลืองทองจนถึงเหลืองอมเขียว หูค่อนข้างเล็ก สั้น และกลม หลังหูดำมีแต้มสีขาวกลางใบหู ขาสั้นและใหญ่ อุ้งตีนกว้าง หางค่อนข้างสั้นและหนา มีจุดทั่วทั้งหาง ปลายหางดำ ลำตัวยาว 120-180 เซนติเมตร น้ำหนัก 70-120 กิโลกรัม จากัวร์ดำก็พบได้บ่อย ส่วนจากัวร์เผือกมีบ้างแต่ไม่มากนัก
ชื่อเรียกจากัวร์ในภาษาต่าง ๆอังกฤษ | jaguar |
ฝรั่งเศส | jaguar |
เยอรมัน | jaguar |
สเปน | tigre, tigre real, yaguar, jaguar, jaguarete |
บราซิล | onça, onça pintada, onça canguçu |
เฟรนช์เกียนา | tig marqué |
มายัน | zac-bolay |
ปารากวัย | jaguareté |
เปรู | otorongo |
ซูรินาเม | penitigri |
เวเนซุเอลา | yaguar |
เสือจากัวร์กับเสือดาวอาศัยอยู่ต่างทวีป จึงไม่มีโอกาสสับสนเมื่อพบเห็นในธรรมชาติ แต่ในสวนสัตว์ที่มีเสือทั้งสองชนิดอยู่ด้วยกันอาจทำให้ผู้พบเห็นสับสนในการจำแนกชนิด เทียบกับเสือดาวแล้ว เสือจากัวร์มีรูปร่างล่ำสันกว่า หัวกว้างและหน้าสั้นกว่า ขาสั้นและใหญ่กว่า หางใหญ่กว่า ลายดอกตามลำตัวใหญ่กว่า ความสับสนระหว่างเสือสองชนิดนี้ยิ่งมากขึ้นในจากัวร์ดำ เพราะในภาษาอังกฤษบางครั้งก็เรียกจากัวร์ดำว่า black panther เหมือนกับเสือดำ
ลักษณะของเสือจากัวร์ในแต่ละสถานที่ยังแตกต่างกันด้วย จากัวร์ในป่าทึบของแอ่งอเมซอนมีขนาดเพียงครึ่งหนึ่งของจากัวร์ที่อาศัยในป่าเปิด ซึ่งอาจเป็นผลจากการที่สัตว์เหยื่อในป่าเปิดมีขนาดใหญ่กว่าและมีมากกว่า จากการสำรวจจากัวร์ในป่าฝนของอเมริกากลาง จากัวร์ตัวผู้มีน้ำหนักเฉลี่ย 57 กิโลกรัม ตัวเมียมีน้ำหนักเฉลี่ย 42 กิโลกรัม ส่วนจากัวร์ในปันตานัลของบราซิลตัวผู้มีน้ำหนักเฉลี่ย 100 กิโลกรัม ตัวเมีย 76 กิโลกรัม สีสันของจากัวร์ในป่าทึบก็ค่อนข้างคล้ำกว่าจากัวร์ในป่าเปิด ความสัมพันธ์เช่นนี้ก็พบได้ในเสือดาวเช่นกัน ซึ่งเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแสงน้อยในป่าทึบ
วิวัฒนาการ
คาดว่าจากัวร์มีวิวัฒนาการมาจากบรรพบุรุษคล้ายเสือดาวในยูเรเชียที่ได้อพยพมายังทวีปอเมริกาเหนือผ่านทางสะพานแบริง จากัวร์รุ่นบุกเบิกตัวใหญ่กว่าในปัจจุบัน แต่ต่อมาตัวหดเล็กลงและขาสั้นลงในยุคไพลโตซีน การที่ขาหดสั้นลงอาจเป็นการปรับตัวให้เข้ากับการอาศัยในโลกสามมิติที่ต้องมีทั้งการวิ่ง ปีนป่าย และว่ายน้ำ
ชนิดย่อย
●P.o.arizonensis - เม็กซิโก
●P.o.centralis - อเมริกากลาง
●P.o.goldmani – เม็กซิโก, เบลีซ
●P.o.hernadesi - เม็กซิโก
●P.o.onca - ป่าฝนอเมซอน
●P.o.palustris – ตอนใต้ของบราซิล
●P.o.paraguensis - ปารากวัย
●P.o.peruviana – เปรู, เอกวาดอร์
●P.o.veraecrusis – เทกซัส
เขตกระจายพันธุ์และถิ่นที่อยู่อาศัย
เสือจากัวร์ชอบน้ำเป็นพิเศษ อาศัยในป่าใกล้แม่น้ำ ทะเลสาบ หรือลำธาร และยังพบในที่ราบหรือทุ่งหญ้าที่น้ำท่วมในฤดูน้ำหลากด้วย เช่นที่ปันตานัลในบราซิลและยาโนสในเวเนซุเอลา ทุ่งปัมปัส บางครั้งก็พบหากินในป่าไม้แคระและทุ่งหญ้าด้วย ปกติจากัวร์ชอบที่ต่ำมากกว่าบนป่าเขา ไม่เคยพบในที่ราบสูงของเม็กซิโก อย่างไรก็ตามเคยพบเสือจากัวร์ที่ระดับสูงสุดถึง 3,800 เมตรในคอสตาริกา ส่วนในเทือกเขาแอนดีสเคยพบจากัวร์ที่ระดับสูงถึง 2,700 เมตร
จาร์กัวร์พบได้เกือบทั่วอเมริกาใต้และอเมริกากลาง รวมไปถึงตอนใต้ของสหรัฐอเมริกาด้วย มีฐานที่มั่นสำคัญอยู่ในป่าฝนลุ่มน้ำอเมซอน อย่างไรก็ตามในพื้นที่อื่นส่วนใหญ่ประชากรเสือจากัวร์ได้ลดลงจนบางแห่งถึงกับหายสาบสูญ โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเขตกระจายพันธุ์ในประเทศสหรัฐอเมริกากับเม็กซิโก และทางทุ่งหญ้าปัมปัสในอาร์เจนตินาตลอดจนถึงอุรุกวัย ประเทศที่ยังมีเสือจากัวร์อยู่คือ อาร์เจนตินา เบลีซ โบลิเวีย บราซิล โคลอมเบีย คอสตาริกา เอกวาดอร์ เฟรนช์เกียนา กัวเตมาลา กายอานา ฮอนดุรัส เม็กซิโก นิคารากัว ปานามา ปารากวัย เปรู ซูรินาเม สหรัฐอเมริกา เวเนซุเอลา ส่วนในประเทศเอลซาลวาดอร์และอุรุกวัยไม่พบอีกต่อไปแล้ว
เขตกระจายพันธุ์ของเสือจากัวร์
นอกจากลุ่มน้ำอเมซอนแล้ว ยังมีพื้นที่เป็นที่มั่นสำคัญของประชากรจากัวร์ก็คือ ป่าต่ำเขตร้อนในอเมริกากลาง เช่น เซลวามายาในกัวเตมาลา เม็กซิโก และเบลีส กับพื้นที่แคบ ๆ ในโชโก-ดาเรียนในปานามาและโคลอมเบีย จนถึงฮอนดุรัสตอนเหนือ ความหนาแน่นของจากัวร์ในป่าฝนแถบเซลวามายาในเบลีสสูงมากถึง 7.5-8.8 ตัวต่อ 100 ตารางกิโลเมตร
ความหนาแน่นของจากัวร์ตัวเต็มวัยในปันตานัลในบราซิลอยู่ที่ประมาณ 6.6-6.7 ตัวต่อ 100 ตารางกิโลเมตร ส่วนในกรานชาโกของโบลิเวียอยู่ที่ประมาณ 2.2-5 ตัวต่อ 100 ตารางกิโลเมตร ในแอ่งอเมซอนของโคลอมเบียอยู่ที่ประมาณ 2.2-4.5 ตัวต่อ 100 ตารางกิโลเมตร ในอุทยานแห่งชาติมาดิดีของโบลิเวียซึ่งอยู่ในลุ่มแม่น้ำอเมซอน ความหนาแน่นอยู่ที่ประมาณ 2.8 ตัวต่อ 100 ตารางกิโลเมตร
อุปนิสัย
เสือจากัวร์ว่ายน้ำและปีนต้นไม้ได้คล่องแคล่ว แม้เรื่องปีนป่ายจะไม่เก่งเท่าเสือดาว แต่ก็สามารถจับลิงบนกิ่งไม้ที่ไม่สูงนักได้ อย่างไรก็ตาม จากัวร์มักหาเหยื่อบนพื้นดินมากกว่า มีสัตว์มากกว่า 85 ชนิดที่อยู่ในเมนูประจำของจากัวร์ อาหารโปรดมักเป็นสัตว์ใหญ่อย่างสมเสร็จ หมูป่าเพ็กคารี กวาง แต่หากจำเป็นก็กินได้ไม่เลือก เช่น อะกูตี คาปิบารา สลอท ลิง สกังก์ เม่น โคแอตี นาก อาร์มาดิลโล นก เคแมน อีกัวนา งู เต่า และปลา ในบราซิลและเวเนซุเอลามีการทำฟาร์มเปิดหลายแห่งที่ใกล้เขตหากินของจากัวร์ ทำให้สัตว์เลี้ยงตกเป็นอาหารของจากัวร์ไปด้วย หากจากัวร์กินอาหารไม่หมดในคราวเดียว มันมักเอาเหยื่อไปซ่อนเพื่อจะกลับมากินต่อในคราวหลัง
วิธีฆ่าเหยื่อของจากัวร์ต่างจากเสือชนิดอื่น จากัวร์มีกรามที่แข็งแรงที่สุดในบรรดาเสือทั้งหมด มันใช้วิธีกัดหัวจนเขี้ยวเจาะทะลุกะโหลก จึงล่าเหยื่อได้มากชนิดรวมถึงสัตว์ที่มีเกราะแข็งเช่นอามาร์ดิลโลหรือเต่า
จากัวร์หากินตอนกลางคืนเป็นหลัก ส่วนใหญ่มีกิจกรรมมากที่สุดช่วงฟ้าสางและหัวค่ำ แต่ในพื้นที่ใกล้ชุมชน จากัวร์มีแนวโน้มจะหากินกลางคืนมากกว่า ปกติหากินโดยลำพัง เป็นสัตว์หวงถิ่นอาศัย แสดงอาณาเขตด้วยปัสสาวะ พื้นที่หากินมากน้อยต่างกันมากแล้วแต่ท้องที่ บางพื้นที่อาจกว้างเพียง 33 ตารางกิโลเมตรสำหรับตัวผู้และ 10 ตารางกิโลเมตรสำหรับตัวเมีย แต่ในบางพื้นที่เช่นในคาบสมุทรยูกาตันในบราซิล ทั้งตัวผู้และตัวเมียครองพื้นที่หากินมากถึง 142 ตารางกิโลเมตร แต่ละวันจากัวร์ตัวผู้เดินทางเป็นระยะทางราว 3.3+1.8 กิโลเมตร ซึ่งมากกว่าตัวเมียมาก (1.8+2.5 กิโลเมตร) ในฤดูแล้งจะเดินทางมากขึ้น จากัวร์ตัวผู้มักพักในพื้นที่ขนาดย่อมผืนหนึ่งเป็นเวลาราวสัปดาห์หนึ่งก่อนที่จะย้ายไปหากินในส่วนอื่นของอาณาเขตต่อไป
ชีววิทยา
จากัวร์ตัวเมียเป็นสัดได้ตลอดทั้งปี ไม่มีฤดูกาลผสมพันธุ์แน่นอน ในพื้นที่ทางเหนือ มักผสมพันธุ์ในเดือนธันวาคมและมกราคม และออกลูกในเดือนเมษายนจนถึงเดือนพฤษภาคม ตัวเมียมีช่วงเวลาที่เป็นสัดนานประมาณ 13 วัน คาบการเป็นสัด 37 วัน ตั้งท้องนานราว 91-111 วัน ออกลูกครั้งละ 1-4 ตัว ส่วนใหญ่