เต่ามะเฟืองวิกฤต ไม่วางไข่แล้ว 4 ปี

เต่ามะเฟืองวิกฤต ไม่วางไข่แล้ว 4 ปี

4 ธ.ค. 2560

ห้องข่าวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

    เมื่อวันที่ ธ.ค.นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อมนายณัฐพล รัตนพันธุ์ ผอ.ส่วนกิจการอุทยานแห่งชาติทางทะเล กรมอุทยานฯ ร่วมกันเปิดเผยถึงสถานการณ์ของเต่ามะเฟืองซึ่งเป็นเต่าทะเลที่ใหญ่ที่สุดโลกและเป็นสัตว์ป่าสงวน บัญชี ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 


นายธัญญากล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ของเต่ามะเฟืองค่อนข้างวิกฤต ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากไม่ขึ้นมาวางไข่เลยตลอด ปีที่ผ่านมา คือตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน โดยกรมอุทยานฯ ได้สำรวจและติดตามการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟืองในอุทยานแห่งชาติสองแห่งที่มีประชากรเต่ามะเฟืองมากที่สุดคือ อุทยานฯ เขาลำปี ท้ายเหมือง จ.พังงา กับ อุทยานฯ สิรินาถ จ.ภูเก็ต 

    อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า ที่อุทยานฯ เขาลำปี ท้ายเหมือง สำรวจและติดตาม ตั้งแต่ปี 2546 2556 บริเวณหาดท่านุ่น หาดเขาปิหลาย หาดโคกกลอยและหาดท้ายเหมือง พบการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟือง จำนวน 28 รัง จำนวนไข่เต่าทะเลทั้งหมด 2,678 ฟอง จำนวนลูกเต่าที่ฟักได้ 1,574 ตัว คิดเป็นร้อยละ 58.78 การฟักตัวทั้งหมด ส่วนอุทยานฯ สิรินาถ จ.ภูเก็ต สำรวจและติดตามตั้งแต่ปี 2542 2556 บริเวณแหล่งวางไข่ตั้งแต่หาดในยาง หาดไม้ขาว หาดสวนมะพร้าว พบการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟืองจำนวน 16 รัง จำนวนไข่เต่าทะเลทั้งหมด 166 ฟอง โดยเฉพาะการขึ้นมาวางไข่ของเต่ามะเฟืองบริเวณหาดไม้ขาว พบว่ามีจำนวนน้อยมากและมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจากการพัฒนาฟื้นที่ขายฝั่งและชายหาด ซึ่งเป็นการรบกวนแหล่งหากิน วางไข่ และแหล่งอาศัยของเต่าทะเล 

ที่น่าตกใจคือ หลังจากปี 2556 เป็นต้นมา ไม่พบเต่ามาเฟืองขึ้นมาวางไข่เลย โดยเฉพาะในฤดูกาลวางไข่คือตั้งแต่เดือน พ.ย. ก.พ.ของทุกปี ทั้งนี้ โดยปกติเต่ามะเฟืองจะวางไข่ที่เดิม เพราะมีความทรงจำในพื้นที่และจดจำสภาพทางเคมีของน้ำได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน หากถึงฤดูวางไข่ เต่ามะเฟืองก็จะกลับมายังหาดเดิมทุกครั้ง ปกติเต่ามะเฟืองจะวางไข่แล้วหายไป 1-3 ปีจึงกลับมาวางอีกครั้ง แต่ขณะนี้ เต่ามะเฟืองหายตัวไปแล้วกว่า ปี  ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เพราะอย่าลืมว่าประเทศไทยเคยมีประชากรเต่ามะเฟืองจำนวนมาก ถึงขนาดเคยการเปิดสัมปทานไข่เต่าแล้วแล้วก่อนปี 2518 ขณะนี้ กรมอุทยานฯ กำลังแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งการควบคุมสภาพแวดล้อมแหล่งที่อยู่อาศัยของเต่ามะเฟือง


    ด้านนายณัฐพล กล่าวว่า สาเหตุที่เต่ามะเฟืองหายไปจนใกล้สูญพันธุ์มาจากการลักลอบเก็บไข่เต่าทะเลในฤดูวางไข่ทั้งเพื่อการบริโภคและการค้าขาย ไข่เต่ามะเฟืองขายกันใบละ 150 บาท นิยมนำไปทำไข่ต้มหรือยำไข่เต่า เพราะเชื่อกันว่าเป็นอาหารบำรุงร่างกาย ยาโด๊ปโดยเฉพาะสามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ นอกจากนั้นยังมาจากสาเหตุการทำประมงชายฝั่ง ที่เครื่องมือประมงหลายชนิดมีผลกระทบต่อเต่ามะเฟือง เช่น อวนรุน อวนลาก อวนลอย อวนติด เบ็ดราว เต่ามะเฟืองมักจะถูกจับและติดเครื่องมือประมงจนตาย โรงแรม รีสอร์ท สิ่งปลูกสร้าง ถนน การวางระบบสาธารณูปโภค แสงไฟส่องสว่าง ก็เป็นปัญหาเพราะทำให้สภาพชายหาดเปลี่ยนแปลง เต่ามะเฟืองรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงไม่ขึ้นมาวางไข่และสูญพันธุ์ไปในที่สุด  


    นายณัฐพล กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ได้สั่งการให้อุทยานฯ ทางทะเลเข้มงวดด้านกฎหมาย เพิ่มการตรวจตราการทำประมงที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการทำการประมงอวนลาก อวนลอยขนาดใหญ่ในระยะ กิโลเมตรจากฝั่งและระงับการทำประมงด้วยเครื่องมืออวนลอยและเบ็ดราวในระยะใกล้ฝั่งหน้าบริเวณชายหาดที่เป็นแหล่งวางไข่รวมทั้งควบคุมไม่ให้มีการปั่นไฟในรัศมี ไมล์ทะเลด้วย
Powered by Wimut Wasalai