กรณีหมีตกคอปเตอร์ เรื่องท่าจะยาว

กรณีหมีตกคอปเตอร์ เรื่องท่าจะยาว

26 ก.พ. 2560

ห้องข่าวกระทรวงทรรพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)  กล่าวถึงกรณีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา มีการเคลื่อนย้ายหมีควายกลับคืนสู่ป่าลึก โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ในการเคลื่อนย้าย  แต่เกิดเหตุหมีควายตกลงมาตายกลางป่าว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องภายหลังกรณีดังกล่าวปรากฏเป็นข่าวออกไป เพราะตั้งแต่วันที่เกิดเหตุคือช่วงวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ไม่มีการรายงานมาที่ตนหรือกรมอุทยานฯ เลย แต่ทางพื้นที่เพิ่งรายงานมาเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ หลังมีการเผยแพร่เรื่องนี้ผ่านสื่อ โดยมีการรายงานมาว่าเป็นการดำเนินการตามปกติของพื้นที่ในการเคลื่อนย้ายหมีควายเพื่อเข้าไปในป่าลึกไม่ให้ออกมารบกวนประชาชนรอบบริเวณ หรือนักท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเกิดปัญหาขึ้น  ขณะนี้กำลังหาสาเหตุว่าที่หมีหล่นลงมา เกิดจากเชือกขาด หรือตะขอที่เกี่ยวกับเฮลิคอปเตอร์หลุด หรือเกิดจากสาเหตุอะไร โดยก่อนหน้าการขนย้ายหมีได้มีการวางยาสลบไว้ แต่พอเชือกหลุดแล้วหมีอาจหล่นลงบนต้นไม้แล้วโดนกิ่งไม้เสียบ ซึ่งตนได้ตำหนิ ผอ.สำนักบริการพื้นที่อนุรักษ์ที่ (ปราจีนบุรี) ไปแล้ว ว่าหลังจากนี้จะดำเนินการอะไรต้องวางแผนอย่างรัดกุม
                นายธัญญากล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ว่าปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากอะไร และต้องมีผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขี้น พร้อมทั้งสั่งการให้สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ ออกหนังสือไปยังสำนักบริหารพื้นที่ทั่วประเทศ การดำเนินการในเรื่องการขนย้ายสัตว์ป่าหลังจากนี้ต้องมีความรัดกุม มีนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญร่วมในการวางแผนดำเนินการ ไม่ใช่ตัดสินใจดำเนินการโดยพลการ  ส่วนยังจะมีการใช้เฮลิคอร์ปเตอร์ในการเคลื่อนย้ายสัตว์ป่าหรือไม่นั้น ต้องเข้าใจว่าการเป็นขนย้ายสัตว์เข้าในป่าลึก แต่การดำเนินการต้องให้มีความชัดเจนและรัดกุม


                ด้านนายมาโนช การพนักงาน อดีตหัวหน้าอุทยานฯ เขาใหญ่ ซึ่งเกษียณอายุราชการแล้วกล่าวว่า  สมัยตนเป็นหัวหน้าอุทยานฯ เขาใหญ่ น่าจะเป็นครั้งแรกที่มีการเคลื่อนย้ายหมีโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ โดยมีหมีเข้ามาบริเวณบ้านพักเจ้าหน้าที่ ซึ่ง น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานฯ  และเจ้าหน้าที่ ปศุสัตว์ได้มาร่วมวางยาสลบหมีก่อนการขนย้าย ซึ่งขณะนั้นมีข้อเสนอจากกรมอุทยานฯ ว่าให้นำหมีไปไว้ที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง จ.ชลบุรี แต่ตนไม่อยากให้เอาไปเพราะเป็นสัตว์ป่าในพื้นที่อุทยานฯ เขาใหญ่  จึงขออนุญาตนายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานฯ ในขณะนั้น นำหมีปล่อยกลับเข้าป่าลึกในเขตอุทยานฯ เขาใหญ่  ซึ่งนายเกษมสันต์ก็อนุญาต จึงได้มีการประชุมทีมงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนักวิชาการ  สัตวแพทย์และนักบิน  คำนวณน้ำหนักหหมีเพื่อวางยาให้มีความเหมาะสม  เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว จึงวางแผนในการขนย้ายหมีกลับเข้าป่า  

“ผมร่วมเดินทางเข้าไปส่งหมีในป่าด้วย ถือเป็นเคสแรกในการขนย้ายหมีกลับคืนสู่ป่าโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ เพราะเส้นทางที่รถเข้าถึงได้ยังไม่ไกลพอ และหมีน่าจะกลับออกมาได้   โดยขั้นตอนเริ่มจากวางยาสลบหมีแล้วจับหมีนอนคว่ำบนเปลสนามล็อกหัวและตัวหมีกับเปลสนามให้แน่นไม่ให้เคลื่อนไหวได้ แล้วจึงนำไปใส่ในฮุกตาข่าย เพื่อเกี่ยวกับท้องเฮลิคอปเตอร์ และบินเข้าไปในป่าตามตำแหน่งที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นบริเวณทุ่งหญ้ากลางป่าเขาใหญ่ ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 10 นาที  ซึ่งไกลพอไม่ให้หมีออกมาจากป่าได้ง่ายและเป็นแหล่งอาศัยของหมีอยู่แล้ว  พอวางหมีลงกับพื้นที่ได้สำเร็จ ก็ต้องรอให้หมีฟื้น กันไม่ให้สัตว์ป่าอื่นโดยเฉพาะหมาในมากัดหมี เมื่อหมีฟื้นและเดินกลับเข้าป่าได้ คณะจึงบินกลับออกมา ผมไม่เข้าใจว่าครั้งนี้เกิดเหตุผิดพลาดอะไร การดำเนินการดังกล่าวต้องมีความละเอียด จะเกิดความผิดพลาดไม่ได้เลย เพราะจะเกิดอันตรายต่อทั้งคนและหมี เราเป็นนักอนุรักษ์ยอมให้เกิดอะไรขึ้นไม่ได้เด็ดขาด” นายมาโนชกล่าว

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุกรณีหมีควายตกเฮลิคอปเตอร์ลงมาตายนั้น นายวิรัช จตุพนาพร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่  ปราจีนบุรี ได้สั่งการให้อุทยานฯ เขาใหญ่ ดำเนินการจัดพิธีไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่เพิ่มเติม และให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในผืนป่ามรดก-ดงพญาเย็นเขาใหญ่ทุกคน เข้าร่วมพิธีไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ ปฏิญาณตนและดื่มน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการป้องกันและรักษาผืนป่ามรดกโลก-ดงพญาเย็นเขาใหญ่ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้อุทยานฯ เขาใหญ่ได้จัดพิธี ไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ไปแล้วซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี ในวันที่ 26 มกราคม
Powered by Wimut Wasalai