วันที่ 13 มิถุนายน ที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย กรมป่าไม้ร่วมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่บ้านโป่ง หมู่ที่ 1 ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย เพื่อตรวจยึดสวนยางพาราที่กลุ่มนายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้า และป่าภูเรือจำนวน 2 แปลง แปลงแรกพื้นที่ 242 ไร่ แปลงที่สอง 649 ไร่ รวมเนื้อที่ 991 ไร่เศษ โดยสวนยางพาราทั้ง 2 แปลงนี้ อายุประมาณ 7 ปี กรีดน้ำยางได้แล้ว เป็นที่น่าสังเกตว่า วัสดุรองรับน้ำยางที่กรีดแล้วส่วนใหญ่ชาวสวนยางทั่วไปจะใช้กะลามะพร้าว หรือขวดน้ำพลาสติดตัดปากขวดทิ้ง แต่สำหรับสวนยางที่ถูกยึดจับแห่งนี้กลับใช้ถ้วยเซรามิกอย่างดี ติดไว้ทุกต้น โดย 1 ไร่มีต้นยางประมาณ 70 ต้นด้วยกัน




นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ กล่าวว่า วันนี้กรมป่าไม้กับหน่วยงานร่วมปฏิบัติ ทหาร ตำรวจ กอ.รมน.ได้ปล่อยกำลังออกปฏิบัติการตรวจยึดพื้นที่สวนยางพารา ที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เน้นป่าต้นน้ำจำนวน 9 ชุด มีพื้นที่เป้าหมาย 3,500 ไร่ ทั้งหมดมีการตรวจสอบข้อมูลค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าเป็นพื้นที่ที่ถูกนายทุนบุกรุกแน่นอน
"เดิมทีป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ภูขี้เถ้า และป่าภูเรือแห่งนี้ เป็นป่าต้นน้ำสมบูรณ์มาก เนื้อที่ประมาณ 9.4 แสนไร่ แต่เวลานี้น่าตกใจมากเมื่อตรวจสอบพบว่า เหลือพื้นที่ป่าต้นน้ำสมบูรณ์แค่ 5.1 หมื่นไร่เท่านั้น พื้นที่ป่าถูกแปลงสภาพเป็นสวนยางพาราและบ้านคนเกือบหมด" นายชีวะภาพกล่าว


พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ผู้เชี่ยวชาญ ศปป.4 กอ.รมน. จากการตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในเขต อ.ด่านซ้ายนั้น พบว่ามีนายทุนและอดีตข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นเจ้าของนับพันไร่ ซึ่งทาง กอ.รมน.กับกรมป่าไม้ และตำรวจ อยู่ระหว่างหาหลักฐานมัดตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป