วันที่ 5 ธันวาคม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ให้สัมภาษณ์ว่า จากกรณีเกิดอุทกภัยในหลายจังหวัดภาคใต้นั้น กรมอุทยานฯในฐานะหน่วยงานที่มีกำลังยานพาหนะ และกำลังคน ได้ออกให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ในรูปแบบต่าง ๆ 

"ในพื้นที่ภาคใต้ มีที่น่าเป็นห่วงที่ประสบปัญหาเกือบทุกปี คือ บริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวที่ชาวบ้านเอาสัตว์เลี้ยงอย่างควายน้ำเข้ามาเลี้ยง โดยควายน้ำนั้นเป็นควายที่มีลักษณะพิเศษกว่าควายในพื้นที่อื่นคือ สามารถว่ายน้ำอยู่ในน้ำได้ครั้งละนาน ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อปีที่ผ่านมาปรากฏว่าน้ำมาเร็วและท่วมกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง แม้ควายน้ำจะว่ายน้ำเก่ง แต่หากระยะไกลเกินไป ไม่มีเกาะให้พักก็จมน้ำตายได้เช่นเดียวกัน โดยปีที่ผ่านมา มีรายงานว่าควายน้ำตายไปถึง 600 ตัว" นายธัญญากล่าว


อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯกล่าวว่า ปีนี้กรมอุทยานฯได้เข้าไปช่วยแก้ปัญหาชาวบ้านโดยผ่อนผันให้สามารถนำรถแบ็คโฮเข้าไปก่อเนินดินเล็ก ๆ เพื่อให้เป็นที่พักของควายน้ำได้ชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ และคิดว่าในอนาคตคงต้องหาพื้นที่ถาวรให้ควายน้ำเหล่านี้อาศัยอยู่อย่างถาวร

ด้านนายนริศ ขำนุรักษ์ อดีต สส.พัทลุง พรรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ควายน้ำทะเลน้อย เป็นเหมือนสัตว์สัญลักษณ์ของ จ.พัทลุง มีอยู่ประมาณ 2,000 ตัว โดยในปีนี้แม้ปริมาณน้ำจะมากกว่าปี 2548 แต่ในพื้นที่ก็เตรียมตัวรับสถานการณ์กันดี โดยกรมอุทยานฯแห่งชาติได้อนุญาตให้ใช้รถแบ็คโฮเข้าไปขุดเนินดินเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นที่พักของควายได้ 120 เนิน แต่ละเนินมีควายสามารถขึ้นไปอาศัยได้ ประมาณ 20-30 ตัว โดยเวลานี้ยังไม่มีรายงานควายจมน้ำตาย 


"อย่างไรก็ตามมีควายน้ำส่วนหนึ่งขึ้นมาอาศัยอยู่บนถนน และกำลังจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ เพราะควายจะยืนอยู่บนถนนลาดยางที่ค่อนข้างแข็งเป็นเวลานานไม่ได้ จะทำให้ฝ่าตีนเป็นแผล รวมทั้งปัญหาการจราจร ที่ประชาชนต้องใช้รถปนกับฝูงควาย และปัญหาอาหารไม่เพียงพอ เพราะภาคใต้พื้นที่ที่เป็นแหล่งหญ้าของควายถูกน้ำท่วมหญ้าตายหมด แต่เข้าใจว่าเวลานี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมปศุสัตว์กำลังหาหญ้าจากภาคอื่น ๆ ลำเลียงมาให้อยู่" นายนริศกล่าว