ความคืบหน้าลิงอ้วน - "เพรียวขึ้น"

ความคืบหน้าลิงอ้วน - "เพรียวขึ้น"

4 มิ.ย. 2560

ห้องข่าวกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

กรณีที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  ได้ช่วยเหลือลิงแสมตัวหนึ่งจากบริเวณจุดชมวิวถนนเลียบวงแหวนใต้ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากลิงตัวดังกล่าวอ้วนมาก เคลื่อนไหวตัวลำบาก ได้แต่นั่งนิ่งๆ รอรับอาหารจากผู้คนที่ผ่านไปมา ครั้งแรกที่รับลิงแสมตัวดังกล่าวมาดูแลนั้น พบว่ามีน้ำหนักตัวถึง 27 กิโลกรัม มีหน้าท้องขนาดใหญ่ประมาณ 35-40 เซนติเมตร ซึ่งโดยปกติแล้ว ลิงแสมโดยทั่วไปจะมีน้ำหนักประมาณ 10-15 กิโลกรัมเท่านั้น


วันที่ มิถุนายน น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานปห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ ความคืบหน้าในการรักษาอาการป่วยด้วยโรคอ้วน ของลิงแสมตัวนี้ว่า ล่าสุด นั้นชั่งน้ำหนักพบว่าลิงสามารถลดน้ำหนักได้แล้วเกือบ กิโลกรัม หลังจากเข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์สัตว์ป่าของกรมอุทยานแห่งชาติครบ เดือนพอดี สุขภาพโดยทั่วไปพบว่า ดีขึ้นทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ไม่มีการร้องข่มขู่เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดูแลให้อาหารเหมือนก่อนหน้านี้ แววตาก็สดใจกว่าเดิมมาก

นายสัตวแพทย์(นสพ.)ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์สัตว์ป่าประจำกรมอุทยานฯกล่าวว่า สัตวแพทย์ได้ปรับอาหาร ปรับพฤติกรรม ให้ลิงได้ออกกำลังกายมากขึ้น โดยได้ทำชิงช้า ไว้ให้ลิงห้อยโหน ปีนป่าย นำอาหารไปวางไว้ตามจุดต่างๆให้ไกลตัวมากขึ้น เช่นวางเอาไว้บนที่สูงๆ เพื่อให้ลิงได้ใช้แรง ให้เคลื่อนไหวร่างกายมากขึ้น โดยเวลานี้ ได้ขยายกรงออกไปเพิ่มอีก กรง ให้ลิงได้มีพื้นที่สำหรับการเคลื่อนไหว สำหรับอาหาร ให้กินผักประเภทผักกาดและถั่วฝักยาว ส่วนผลไม้ให้กินกล้วยกับมะละกอ

"วิเคราะห์แล้ว พบว่าสาเหตุที่ลิงอ้วนมาจากการกินน้ำตาลจากอาหารของคนมากเกินไป จะต้องลดส่วนนี้อย่างเร่งด่วน แต่ที่ยังให้มะละกอกับกล้วยอยู่เพราะผลไม้ทั้งสองนี้มีน้ำตาลฟรุ๊กโต้ส ที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที และยังทำให้ร่างกายสดชื่น ไม่เครียดเกินไปอีกด้วย โดยภาพรวมหมอค่อนข้างพอใจกับสุขภาพของลิงอ้วนตัวนี้" นสพ.ภัทรพลกล่าว มะละกอ ถั่วฝักยาว
Powered by Wimut Wasalai